ระบบการให้คะแนนดาวของ Morningstar สำหรับหุ้น ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมของหุ้นได้อย่างรวดเร็วด้วยการอัปเดตคะแนนทุกวัน โดยคะแนนตั้งแต่ 1 ถึง 5 ดาว สะท้อนความเห็นของนักวิเคราะห์เกี่ยวกับมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นเทียบกับราคาตลาดปัจจุบัน หุ้น 5 ดาวบ่งชี้ว่าหุ้นนั้นมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ขณะที่ 1 ดาวบ่งชี้ว่าหุ้นมีมูลค่าสูงเกินไป เกณฑ์การให้คะแนนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 4 ประการ ได้แก่ ความได้เปรียบทางการแข่งขันของบริษัท มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ความไม่แน่นอนของมูลค่าที่ประเมิน และราคาตลาดปัจจุบัน เป้าหมายคือการที่ราคาตลาดจะบรรจบกับมูลค่าที่แท้จริงภายในสามปี โดยสมมติว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงเดิม
การประเมินมูลค่าที่แท้จริงเชิงปริมาณ คำนวณทุกวัน แสดงถึงการประเมินมูลค่าหุ้นต่อหุ้นของ Morningstar การประเมินนี้ใช้แบบจำลองทางสถิติที่ได้จากการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของนักวิเคราะห์ ซึ่งรวมถึงการคาดการณ์ทางการเงิน แม้ว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่านี่เป็นเพียงการคาดการณ์ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่รับประกัน ความผันผวนของตลาดและสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลลัพธ์จริง
นอกเหนือจากการให้คะแนนดาวแล้ว Morningstar ยังมีการให้คะแนน Medalist ซึ่งเป็นการประเมินกลยุทธ์การลงทุนในอนาคต โดยใช้ระดับคะแนน Gold, Silver, Bronze, Neutral และ Negative ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่เกี่ยวข้องบนพื้นฐานของความเสี่ยงที่ปรับแล้ว การให้คะแนนขึ้นอยู่กับสามเสาหลัก ได้แก่ บุคลากร บริษัทแม่ และกระบวนการ รวมถึงการประเมินค่าธรรมเนียม เสาหลักเหล่านี้ได้รับการจัดระดับจากต่ำไปสูง สะท้อนถึงการประเมินเชิงคุณภาพของนักวิเคราะห์หรือการประเมินผลด้วยอัลกอริทึม
การให้คะแนน Medalist จะได้รับการกำหนดและตรวจสอบโดยนักวิเคราะห์ โดยมีการทบทวนอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุกๆ 14 เดือน สำหรับกองทุนที่ครอบคลุมโดยตรง สำหรับกองทุนที่ครอบคลุมโดยอ้อมหรือประเมินด้วยอัลกอริทึม คะแนนจะอัปเดตทุกเดือน คะแนนเหล่านี้จะถูกจัดประเภทตามหมวดหมู่ของ Morningstar และลักษณะการลงทุนแบบแอคทีฟหรือแพสซีฟ
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการให้คะแนน Medalist ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือการให้คะแนนเครดิต/ความเสี่ยง นักลงทุนควรพิจารณาให้เป็นปัจจัยหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยเมื่อตัดสินใจลงทุน คะแนนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยพื้นฐาน และไม่ควรถือเป็นการรับประกันผลการดำเนินงานในอนาคตหรือคำแนะนำในการซื้อหรือขาย การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในการจัดการ เทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจ และตัวแปรอื่นๆ อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลลัพธ์ นักลงทุนควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินและทำการวิจัยอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ