ราคาทองคำ 1 กรัมมีความผันผวนทุกวันและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อุปสงค์และอุปทาน แนวโน้มเศรษฐกิจ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และนโยบายของธนาคารกลาง การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้สามารถช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ราคาทองคำ spot ถูกกำหนดวันละสองครั้งในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์โดย London Bullion Market Association (LBMA) จากนั้นราคานี้จะถูกแปลงเป็นกรัมและหน่วยน้ำหนักอื่นๆ
ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทองคำมีแนวโน้มที่จะมีมูลค่ามากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการปกป้องความมั่งคั่งของตน ในทางกลับกัน ดอลลาร์ที่แข็งค่าสามารถลดความต้องการทองคำลง ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำลดลง
ความสัมพันธ์ระหว่างเงินดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงโดยทั่วไปจะนำไปสู่ราคาทองคำที่สูงขึ้น ในขณะที่เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นสามารถ menekan ราคาทองคำได้ ความสัมพันธ์นี้เกิดจากการที่ทองคำมีราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐและบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำจะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ใช้สกุลเงินอื่น ซึ่งจะเพิ่มความต้องการและผลักดันราคาให้สูงขึ้น
ในอดีต ดอลลาร์สหรัฐได้รับการสนับสนุนโดยทองคำภายใต้ระบบ Bretton Woods อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ถูกยกเลิกในปี 2514 และเงินดอลลาร์สหรัฐไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับทองคำอีกต่อไป แม้จะเป็นเช่นนี้ ทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้และถือเป็นเครื่องป้องกันภาวะเงินเฟ้อและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ
การลงทุนในทองคำสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงได้ ทองคำมักให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ประสบปัญหา ทำหน้าที่เป็นกันชนป้องกันความผันผวนของตลาด นักลงทุนสามารถซื้อทองคำแท่ง เช่น ทองคำแท่งและเหรียญ หรือลงทุนในตราสารทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับทองคำ เช่น ETF
ทองคำแท่งเป็นวิธีที่นิยมในการลงทุนในทองคำกายภาพ
ราคาทองคำ 1 กรัมปัจจุบันสามารถดูได้จากเว็บไซต์ทางการเงินต่างๆ และมักจะอ้างอิงเป็นดอลลาร์สหรัฐ ราคานี้สะท้อนถึงราคาทองคำ spot บวกกับค่าพรีเมี่ยมที่ผู้ค้าเรียกเก็บ ค่าพรีเมี่ยมครอบคลุมต้นทุนการกลั่น การผลิต และการจัดจำหน่าย
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน ความต้องการที่เพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับอุปทานที่จำกัด สามารถผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้น ในทางกลับกัน ความต้องการที่ลดลงหรืออุปทานที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ราคาลดลง แนวโน้มเศรษฐกิจโลกก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมักจะเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจะผลักดันราคาให้สูงขึ้น
การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจสามารถส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของราคาที่อาจเกิดขึ้น
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมีผลอย่างมากต่อราคาทองคำในรูปของดอลลาร์ เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้ทองคำน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นและราคาสูงขึ้น ในทางกลับกัน ดอลลาร์ที่แข็งค่าสามารถลดความต้องการทองคำลง ทำให้ราคาตกต่ำลง
การเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้ การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณสามารถส่งผลต่อความแข็งแกร่งของดอลลาร์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อทองคำ
การเปรียบเทียบทองคำกับโลหะมีค่าอื่นๆ สามารถช่วยให้นักลงทุนเข้าใจมูลค่าสัมพัทธ์และศักยภาพในการลงทุนได้
ทองคำไม่เพียงแต่เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเท่านั้น แต่ยังมีการใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทันตกรรม และเครื่องประดับ การใช้งานที่หลากหลายเหล่านี้มีส่วนทำให้ความต้องการโดยรวมและมีอิทธิพลต่อราคา แม้ว่าราคาทองคำ 1 กรัมอาจมีความผันผวน แต่โดยทั่วไปแล้วทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ในระยะยาว ทำให้เป็นตัวเลือกการลงทุนยอดนิยมสำหรับผู้ที่แสวงหาความมั่นคงและการกระจายความเสี่ยง